เป็น HR มือใหม่ อยากได้คำแนะนำเรื่องการหาพนักงานค่ะ

ชมัยพร
ชมัยพร
08 มิถุนายน 2022 17:57 น.
สวัสดีค่ะ ถ้าเป็น HR มือใหม่ อยากรู้ว่าถ้าต้องหาพนักงานควรเริ่มต้นยังไงดีคะ จะใช้พวกเว็บไซต์ประกาศงาน , บริษัทจัดหางาน หรือมีวิธีไหนอีกบ้าง อยากได้คำแนะนำตรงนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ

คัดลอก URL เรียบร้อยแล้ว!

4 คำตอบ

  • Sourcedout (Freelance Recruiter Platform)
    Sourcedout (Freelance Recruiter Platform)
    13 มิถุนายน 2022 13:24 น.
    สวัสดีครับ

    ถ้าวิธีการหาผู้สมัคร จะนิยมใช้กันประมาณ 5 วิธีด้วยกันครับ​ ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน

    1. เว็บไซต์ประกาศงาน อย่าง JobsDB, Jobthai กลุ่มนี้จะค่าบริการไม่สูง สามารถหาพนักงานได้ 2 วิธีคือการประกาศงานแล้วรอผู้สมัครที่ใช้บริการเว็บนั้นๆ ส่งใบสมัครเข้ามา แต่ profile จะมีทั้งตรงและไม่ตรง และอาจจะใช้เวลานานหน่อย ทั้งรอผู้สมัคร กับเราต้องเป็นคนสกรีนผู้สมัครเองทั้งหมด อีกวิธีคือการซื้อ profile หรือใช้เหรียญที่เว็บนั้นๆมีให้จาก package ต่างๆ ซึ่งเว็บจะมีเป็นเหมือน Search Engine ที่เราสามารถระบุทั้งประสบการณ์ทำงาน สกิล สายงาน และ เสิร์ชจากชื่อบริษัทที่เราคิดว่าผู้สมัครที่น่าสนใจทำงานอยู่ ในการซื้อ profile เราจะเห็นเบอร์ติดต่อ และ e-mail ของผู้สมัคร ทำให้สามารถติดต่อเข้าไปนำเสนองานได้ จะเร็วกว่าวิธีแรก และได้ผู้สมัครที่ตรงความต้องการมากกว่า แต่ก็อาจจะต้องใช้สกิลในการสื่อสารเพื่อทำให้ผู้สมัครสนใจที่จะมาสัมภาษณ์ รวมถึงเหรียญก็จะมีจำกัดในการซื้อ profile ตาม package ที่เราใช้งาน การเลือกใช้เว็บประกาศงานที่ไหนก็อยู่ที่เว็บนั้นมีฐานผู้สมัครในกลุ่มไหนมากกว่า ระดับภาษา หรือราคามาเป็นส่วนในการตัดสินใจครับ 

    2. บริษัทจัดหางานหรือ Head Hunter ก็จะเหมือนเป็นบริษัท Agency ที่เค้ารับในการช่วยหาพนักงานให้กับเรา ข้อดีคือจะช่วยแบ่งเบาหน้าที่ของเราลงไปได้เยอะ เพราะเค้าจะรับบรีฟเกี่ยวกับผู้สมัครที่เราต้องการก่อนว่า เราอยากได้ผู้สมัครแบบไหน มีสกิลยังไงบ้าง เงินเดือนไม่เกินเท่าไหร่ มีคุณสมบัติอะไร พวกนี้เราสามารถกำหนดได้หมดเลยครับ เค้าก็จะช่วยเรามองหาและคัดกรองคนที่น่าสนใจ การจะนัดสัมภาษณ์หรือไม่ขึ้นอยู่กับเรา และบริษัทเค้าจะช่วยดูแลนัดสัมภาษณ์ต่างๆให้ ต่อรองเงินเดือนต่างๆ จนกว่าเราจะได้คน ค่าบริการจะสูงกว่าการใช้เว็บประกาศงาน แต่ว่าก็จะค่อนข้างเร็วกว่า และค่าบริการจะมีเฉพาะแค่เราได้พนักงานเท่านั้น ถ้าไม่ได้ผู้สมัครเข้ามาทำงานผ่านช่องทางเค้า ก็ไม่เสียค่าบริการอะไร ถ้าเราได้คนแล้วก็แจ้งปิด job กับเค้าได้ หรือถ้ามี job ใหม่ๆก็ส่งให้เค้าช่วยหาได้ตลอด สะดวกดี

    การเลือกใช้บริการของที่ไหน ก็ให้เราดูเรื่องของขนาดฐานผู้สมัครที่เค้ามี จำนวน HR recruiter ในองค์กร ความถนัดในการหา รายละเอียดค่าบริการและการรับประกัน ส่วนมากบริษัทจะใช้ Head Hunter และเว็บประกาศงานควบคู่กัน ถ้าเจ้าที่อาจจะได้ยินชื่อบ่อยๆ ก็มี Reeracoen, Adecco, PRTR, JAC,​ Robert Walters, ETC.

    3. จะมี platform หาพนักงาน ชื่อ Sourcedout ที่จะใช้เครือข่ายของ Freelance HR Recruiter ซึ่ง Service นี้จะคล้ายเราใช้บริการ Head Hunter เลยครับ แต่เค้าจะมี HR หรือ Recruiter network อยู่เยอะมาก น่าจะหลายร้อยคน ข้อดีคือสามารถระบุคุณสมบัติผู้สมัครที่ต้องการได้ ช่วยนัดสัมภาษณ์ ช่วยออฟเฟอร์งาน แต่ราคาจะถูกกว่า การใช้บริษัทจัดหางานหรือ Head Hunter ค่อนข้างเยอะ อาจจะใช้เวลามากกว่านิดหน่อย แต่ผู้สมัครก็จะถูกคัดมาให้แล้ว ก็ช่วยลดภาระของ HR ในองค์กรลงได้มาก อีกอย่างคือถ้าเราไม่ได้พนักงานก็ไม่ต้องเสียค่าบริการเช่นกัน
    เข้าไปดูรายละเอียดตาม Link ได้ครับ https://www.sourcedout.asia/th/client

    4.ใช้ Linkedin จะเหมาะกับการหาในระดับที่เป็น Senior มากขึ้น ภาษาดีๆ ตำแหน่งที่เปิดรับ expat บริษัท MNC หรือกลุ่มพวกงาน​ IT ก็ค่อนข้าง effective เค้าจะเป็นรูปแบบ Social Media คล้าย Facebook แต่จะเน้นในเรื่องของการติดต่อธุรกิจเป็นหลัก จะแตกต่างตรงที่เค้าจะมีให้ระบุเรื่องประสบการณ์ทำงาน ตำแหน่งปัจจุบัน สกิลต่างๆเอาไว้เหมือน resume เลย เราอาจจะลองเริ่มต้นใช้แบบ Free ก็สามารถเสิร์ชหาและติดต่อคนที่น่าสนใจเพื่อเสนองานได้แล้ว แต่จะมีลิมิตของ message ที่จะส่ง หรือจำนวนการเสิร์ชในแต่ละวัน เราก็สามารถปรับไปซื้อ package เพื่อให้ติดต่อผู้สมัครได้มากขึ้น search ได้มากขึ้น หรือเห็นสถานะการหางานของคนนั้นๆได้ กับจะมี package เป็นแบบสำหรับ Recruiter โดยตรงเลย คือมี Search Engine เพื่อหาผู้สมัครจากช่ือตำแหน่ง, ประสบการณ์, skill, ภาษาได้ แต่จะราคาค่อนข้างสูงทีเดียว ข้อเสียคือส่วนมากจะเป็นการติดต่อผ่าน message ซึ่งการตอบกลับ จะใช้เวลานานกว่าช่องทางอื่นๆ หรือบางคนอาจจะไม่ได้ active เล่นอยู่ในขณะนั้น
    Link: https://www.linkedin.com

    5.กลุ่ม Facbook, หรือ Line ที่จะมีทั้งกลุ่มงานเฉพาะทางหรือระบุโลเคชั่นต่างๆ ข้อดีคือเราสามารถโพสได้บ่อยๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ก็อาจจะกำหนดประสบการณ์ของผู้สมัครไม่ค่อยได้ ยกเว้นเข้าไป join กลุ่มเฉพาะด้าน เหมาะกับการหาพนักงานรายวัน งานบริการ งานร้านอาหาร โรงแรม หรืองานที่เปิดกว้างในเรื่องของประสบการณ์ผู้สมัครได้บ้างครับ
    0

    คัดลอก URL เรียบร้อยแล้ว!

    ขอบคุณสำหรับข้อมูล
  • Trinnakorn Kij
    Trinnakorn Kij
    13 มิถุนายน 2022 08:27 น.
    แนะนำให้เริ่มจากการศึกษา JD ตัวกำหนดหน้าที่ของตำแหน่งงานให้ดี ให้เข้าใจก่อนครับ พร้อมทั้งพูดคุย และศึกษาหัวหน้างานของตำแหน่งงานด้วย เพื่อให้เราสามารถหาคนได้ถูกต้อง ทั้งด้าน Skill และ Adtitude (จะได้ทำงานได้ และอยู่ได้ด้วย)

    ส่วนเรื่อง Tools ในการสรรหา ปัจจุบันมีมากมายหลายประเภท ทั้งเว็บไซต์รับสมัครงาน กลุ่มเฟสบุค กลุ่มไลน์ หรือการติดประกาศประชาสัมพันธ์ แนะนำให้ทดลองใช้ให้หมดเลย แล้วเก็บข้อมูลสถิติดูว่าเครื่องมืออันไหนเหมาะกับองค์กรของเราจริง ซึ่งที่แนะนำอย่างนี้เพราะเครื่องมือแต่ละประเภท เมื่อเจอปัจจัยที่ต่างกันก็จะให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันแล้ว (เช่น บริษัทที่ใช้เว็บรับสมัครงานเว็บเดียวกัน ตำแหน่งงานเดียวกัน แต่ที่ตั้งคนละที่ หรืองบประมาณที่ฝ่ายสรรหาได้รับมาใช้ในการสรรหาไม่เท่ากัน ก็ได้ผลลัพธ์ต่างกัน)
    0

    คัดลอก URL เรียบร้อยแล้ว!

    ขอบคุณสำหรับข้อมูล
  • วีระชัย เกียรติวิมล
    วีระชัย เกียรติวิมล
    12 มิถุนายน 2022 20:32 น.
    ก่อนอื่นควรดูว่าตำแหน่งที่ทางองค์กรต้องการนั้นเป็นแบบไหน เป็นพนักงานในตำแหน่งเฉพาะเจาะจง หรือเป็นตำแหน่งกว้างๆทั่วไป หรือเป็นตำแหน่งระดับบริหาร เพราะแต่ละตำแหน่งอาจจะใช้เครื่องมือหรือการสรรหาและกรอบการจ้างที่ไม่เหมือนกัน เราจะได้โฟกัสคนที่จะมาอยู่กับองค์กรได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เช่น หากต้องการพนักงานทั่วไปและรับจำนวนมากส่วนใหญ่ควรเริ่มจากภายในองค์กรซึ่งตรงนี้จะทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกหรือบุคคลอ้างอิงมากยิ่งขึ้นเพราะเปิดรับเป็นการภายในแต่ควรมีกรอบเวลาเปิดรับชัดเจน หลังจากที่ได้บุคลากรส่วนหนึ่งแล้วหากยังไม่ครบสามารถเปิดรับภายนอกได้เช่นที่นิยมและได้ผลมากที่สุดเวลานี้คือใช้โซเชี่ยลมีเดียอย่างเฟสบุ๊คขององค์กร แต่ต้องสื่อสารด้วยคอนเทนท์ที่ชัดเจน แต่หากต้องการโปรไฟล์คร่าวๆสามารถใช้ไลน์เพื่อให้ผู้สมัครส่งเรซูเม่มาดูก่อนเช่นให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มจากเว็บไซด์หรือเขียนเรซูเม่ส่งเข้ามาแทนการวอลค์อินแล้วสัมภาษณ์ทันที แต่หากเป็นตำแหน่งที่เจาะจงเช่นระดับเมเนเจอร์ขึ้นไปในบางตำแหน่ง ควรใช้เครื่องมือหรือมืออาชีพช่วยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับองค์กรของเราด้วยว่ามีอะไรที่สามารถดึงดูดคนเหล่านี้เข้ามาร่วมงานเพราะคนเก่งๆย่อมต้องการคุณค่าและอนาคตที่ดีกว่า แต่ถ้าเราเป็นองค์กรเล็กๆและอยากได้คนร่วมงานใหม่ไม่กี่คนแนะนำว่าใช้สื่อท้องถิ่นช่วยในการประกาศรับสมัครได้ หมายถึงเฟสบุ๊คของย่านที่บริษัทหรือองค์กรเราตั้งอยู่ในย่านนั้นเพื่อให้เข้าถึงคนแถวนั้น เพราะตำแหน่งเล็กๆประเภทรายวันพวกนี้จะไม่ชอบเสียค่าเดินทางในการมาทำงานมาก
    0

    คัดลอก URL เรียบร้อยแล้ว!

    ขอบคุณสำหรับข้อมูล
  • 1. หาจากภายในหน่วยงานของเราเอง แจ้งด้วยการสื่อสารภายในทุกช่องทางที่มี   ทำสื่่อ ประกาศปิดในบริเวณที่พนักงานมาดูได้  หรือ ทางเดิน หรือ บริเวณที่ Scan บัตร  แผ่นพับ รวมทั้งสื่ออิเลคทรอนิกส์ ( FB  Line  e-mail  Intranet )  รวมถึง ปากต่อปาก และกิจกรรมภายใน 
      
    2. หาจากภายนอกองค์กร โดยใช้สื่อที่เป็น Paper และ อิเลกทรอนิกส์
        2.1  ลงประกาศในหนังสือพิมพ์  ( ไม่ค่อยนิยม)  
        2.2  ปิดประกาศหน้าบริษัท  หรือ  โรงงานที่เป็นพท. สาธารณะ บุคคลภายนอกเข้าถึงได้
        2.3  ลงประกาศผ่าน Recruitment Agency 
        2.4  ลงประกาศผ่าน Website ของเราเอง
        2.5  ใช้บริการ Search Engine
        2.6  ใช้บริการ Head  Hunter 
        2.7  เป็นสมาชิกกลุ่ม Line   FB  กลุ่มเรียนหนังสือ  กลุ่มอบรม  สมาชิกวาราสร  ที่อนุญาตให้ลงโฆษณารับสมัครได้ หรือเป็น สิทธิ์พิเศษที่เป็นกลยุทธิ์การขายของวารสารนั้น  
        2.8   เข้าร่วมตลาดนัดแรงงาน ( ตอนนี้มีน้อยมาก)  
        2.9  Campus  Tour ในงานปัฉินิเทศ  หากกลุ่มเป้าหมายเป็น นศ.จบใหม่  
        2.10   
        
    3. Key Word สำหรับ ข้อ 2  Adecco  PRTR  Jobtopgun  Jobsdb  Talent  Linkin  HR Center  PMAT   วารสารคน  ธรรมนิติ  เป็นต้น

    4. ใช้สื่่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย มากที่สุด ด้วยโทรศัพท์มือถือ

    5. ใช้บริการ Application หาคนทำงาน ( เสียเงิน)  
    0

    คัดลอก URL เรียบร้อยแล้ว!

    ขอบคุณสำหรับข้อมูล

อันดับผู้ให้ข้อมูล